ความสำคัญของ Stabilizer ในการปกป้องอุปกรณ์ไฟฟ้า

รู้ไหมว่าการเกิดไฟตก ไฟเกิน ไฟดับ ไฟกระชากจากสาเหตุต่าง ๆ นั้นเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เสียหาย ดังนั้นจึงต้องใช้ Stabilizer หรือเครื่องปรับแรงดันไฟฟ้าเข้ามาช่วยป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นภายในบ้าน สำนักงาน หรือโรงงานอุตสาหกรรม แต่ทำไมเครื่องควบคุมแรงดันไฟฟ้าจึงสำคัญ เรามีคำตอบมาฝากทุกคนแล้ว

Stabilizer คืออะไร มีหลักการทำงานอย่างไร?

Stabilizer หรือ Automatic Voltage Regulator (AVR) คือ เครื่องปรับแรงดันไฟฟ้า มีหน้าที่ช่วยควบคุมไฟฟ้าอัตโนมัติ เพื่อแก้ปัญหาไฟอ่อน ไฟเกิน ไฟตก ไฟกระชากที่อาจเกิดขึ้น และส่งผลเสียต่อเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ มีส่วนช่วยรักษาแรงดันไฟฟ้าจากแหล่งจ่ายไฟให้มีความเสถียร คงที่ ไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงของแรงดันไฟฟ้าขาเข้าอย่างไร Stabilizer ก็จะช่วยป้องกันโหลด หรือป้องกันเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ให้เกิดความเสียหาย จึงมีส่วนช่วยปกป้องข้อมูลสำคัญในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และยืดอายุของเครื่องใช้ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หน้าที่หลักของ Stabilizer หรือ Automatic Voltage Regulator (AVR) คือช่วยปรับแรงดันไฟฟ้าที่เกิดจากปัญหาไฟอ่อน ไฟเกิน ไฟตก ไฟกระชากที่เข้ามาในระดับ 184 - 284V โดยอัตโนมัติ โดยจะปรับให้มีแรงดันคงที่อยู่ที่ 220V ซึ่งเป็นระดับที่เหมาะสมกับเครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์ไฟฟ้าในประเทศไทย เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับอุปกรณ์ที่เราใช้งาน

นอกจากนี้ด้วยความที่ Stabilizer หรือเครื่องปรับแรงดันไฟฟ้า ช่วยปรับแรงดันไฟฟ้าให้เหมาะสม จึงช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า และยังช่วยปรับคุณภาพของไฟฟ้าจากแหล่งจ่ายให้ดีขึ้น เนื่องจากช่วยกรอง และกันสัญญาณรบกวนต่าง ๆ ออกก่อนนำพลังงานไฟฟ้าเหล่านั้นไปใช้งาน มีส่วนช่วยปรับแรงเคลื่อนของไฟฟ้าให้สมดุลระหว่างแหล่งจ่าย คือ หม้อแปลงไฟฟ้ากับผู้ใช้งาน จึงช่วยให้ประหยัดไฟมากขึ้น

หลักการทำงานของ Stabilizer

Stabilizer หรือเครื่องปรับแรงดันไฟฟ้าทำหน้าที่รักษาแรงดันไฟฟ้าจากแหล่งจ่ายไฟให้เสถียร โดยแปลงแรงดันไฟฟ้าส่วนเกินเป็นความร้อนแล้วกระจายไฟโดยระบบทำความเย็น ควบคุมการทำงานโดยไมโครโพรเซสเซอร์ที่ทำหน้าที่แต่งสัญญาณคลื่นซายน์ (Sine Wave) ให้มีความเสถียร คงที่ทำให้ปรับแรงดันไฟฟ้าให้ปกติแบบอัตโนมัติ

ในส่วนของระบบป้องกันไฟอ่อน ไฟเกิน ไฟตก ไฟกระชาก Stabilizer จะทำการตัดไฟฟ้าจากแหล่งจ่ายไฟเมื่อตรวจพบแรงดันไฟฟ้าสูงเกินกำหนด จากนั้นจะกลับมาทำงานอีกครั้งเมื่อแรงดันไฟฟ้าขาเข้าอยู่ในระดับที่ปลอดภัย นอกจากนี้ยังสามารถอธิบายการทำงานของเครื่องปรับไฟว่ามีคุณสมบัติโครงสร้างเชิงเส้นแบบอินเตอร์แอ็กทีฟ ใช้เทคโนโลยี Automatic Voltage Regulator (AVR) แทนแบตเตอรี่ ในช่วงแรงดันไฟฟ้าขาเข้าสูง หรือต่ำ ตัวเครื่องจะช่วยปรับเพิ่ม หรือลดแรงดันไฟฟ้าให้เป็นปกติ โดยเป็นการกำหนดแรงดันไฟฟ้าผ่านเข้าหม้อแปลงให้กลายเป็นแรงดันไฟฟ้าภายในอัตโนมัติ โดยไม่ต้องใช้แรงดันไฟฟ้าจากแบตเตอรี่

ความสำคัญของเครื่องปรับไฟ Stabilizer กับเครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

เมื่อเกิดปัญหาไฟฟ้าขัดข้อง ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ล้วนนำมาซึ่งความเสียหายที่อาจเกิดจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าของเรา หากไม่มีตัวช่วยป้องกันก็อาจทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เสียหาย หากเป็นคอมพิวเตอร์ก็อาจส่ง ผลร้ายต่อข้อมูลสำคัญ ทำให้ข้อมูลสำคัญต่าง ๆ สูญหายได้แบบไม่คาดคิด ดังนั้นการใช้งานเครื่องปรับไฟ Stabilizer จึงมีส่วนช่วยอย่างมากในการป้องกันปัญหาไฟตก ไฟอ่อน ไฟเกิน ไฟตก ไฟกระชาก ทั้งที่เกิดจากความขัดข้องของอุปกรณ์จ่ายไฟ และจากสาเหตุสุดวิสัยทางธรรมชาติ ช่วยยืดอายุของอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ใช้งานได้เป็นปกติยาวนานขึ้น อีกทั้งยังช่วยป้องกันปัญหาข้อมูลสูญหายเมื่อเกิดปัญหาเกี่ยวกับแรงดันไฟอีกด้วย

ซึ่งอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่สามารถใช้งานกับ Stabilizer หรือเครื่องปรับแรงดันไฟฟ้าได้นั้นมีตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านทั่วไป เช่น เครื่องปรับอากาศ พัดลม ทีวี ตู้เย็น หลอดไฟ เครื่องเสียง หรือจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้ระบบมอเตอร์ เช่น ปั๊มน้ำ ไปจนถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ เครื่องจักรในโรงงานอุตสาหกรรม เครื่องปล่อยสัญญาณไวไฟ รวมถึงอุปกรณ์สำนักงานอย่าง เครื่องถ่ายเอกสาร เป็นต้น

ประโยชน์ และข้อดีของการมี Stabilizer

1. ช่วยปกป้องแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ภายในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่อาจเกิดจากปัญหาแรงดันไฟเกิน หรือไฟอ่อน
2. ช่วยปรับปรุงการทำงานของวงจรไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพ โดยตรวจสอบ และปรับแรงดันไฟฟ้าอัตโนมัติให้เหมาะสมกับการทำงาน
3. ช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ไฟฟ้า เนื่องจากช่วยป้องกันไม่ให้กระแสไฟไหลผ่านมากเกินไป เพราะเครื่องปรับแรงดันไฟฟ้า สามารถควบคุม และจำกัดปริมาณกระแสไฟที่ไหลผ่านอุปกรณ์ไฟฟ้าได้ จึงมีส่วนช่วยป้องกันความร้อน และความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นตามมาจากปัญหาไฟเกิน
4. ช่วยป้องกันปัญหาสัญญาณรบกวน (EMI/RFI) และปัญหาที่อาจเกิดจากระบบสายส่งการไฟฟ้าไม่เสถียรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หลายคนอาจคิดว่าการใช้งาน Stabilizer หรือ Automatic Voltage Regulator (AVR) ไม่จำเป็น แต่หากเราอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่แรงดันไฟฟ้าไม่คงที่ เกิดปัญหาไฟตก ไฟอ่อน ไฟเกินบ่อย ๆ เครื่องปรับแรงดันไฟฟ้าก็เป็นตัวช่วยสำคัญที่มองข้ามไปไม่ได้ เพราะมีส่วนช่วยป้องกัน และยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ได้ทั้งในระยะสั้น และระยะยาว นอกจากนี้โรงงาน โรงพยาบาล หรือห้างร้านขนาดใหญ่ที่ต้องเปิดปิดเครื่องจักรหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าจำนวนมากในเวลาสั้น ๆ เองก็ต้องการใช้เครื่องปรับไฟด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้น Stabilizer หรือเครื่องปรับแรงดันไฟฟ้าจึงมีความสำคัญมากกว่าที่เราคิด

หากคุณกำลังมองหาเครื่องปรับแรงดันไฟฟ้า Stabilizer หรือ Automatic Voltage Regulator (AVR) เลือก บริษัท สเตเบิล อิเล็กตริก ซัพพลาย จำกัด คือผู้ผลิต และจัดจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้า รวมถึงอุปกรณ์อื่น ๆ อย่างอุปกรณ์เครื่องปรับแรงดันไฟฟ้า เครื่องควบคุมแรงดันไฟฟ้า Stabilizer, UPS, Battery เพื่อแก้ไขปัญหาไฟตก ไฟอ่อน ไฟเกิน แปลงไฟ 220v ราคาถูก พร้อมบริการหลังการขาย และบริการงานซ่อมแซมอุปกรณ์ต่าง ๆ ดำเนินการด้วยทีมงานมืออาชีพที่มีความรู้ และประสบการณ์โดยเฉพาะ คุณภาพมาตรฐานระดับสากล พร้อมการตรวจสอบสินค้าก่อนการจัดส่งทุกครั้ง เพื่อให้คุณมั่นใจมากกว่าเมื่อต้องการเลือกซื้อหม้อแปลงไฟฟ้าไม่ว่าจะเป็นแบบเฟสเดียว หรือหม้อแปลง 3 เฟส พร้อมให้บริการแบบครบวงจร ภายใต้คอนเซปต์ "คุณภาพบริการ คืองานของเรา"

สนใจสั่งซื้อหม้อแปลงไฟฟ้า เครื่องปรับแรงดันไฟฟ้า รวมถึงบริการซ่อมได้ที่

โทร : 02-742-1002 ถึง 5 มือถือ : 083-419-6935 อีเมล : info@stable.co.th