ความแตกต่างของเครื่องปรับแรงดันไฟฟ้าอัตโนมัติ AVR หรือ Stabilizer และ UPS
ทำความรู้จักกับเครื่องปรับแรงดันไฟฟ้าอัตโนมัติ AVR หรือ Stabilizer และ UPS
เพื่อให้เลือกใช้ได้อย่างเหมาะสมกับความต้องการ
หากใครเจอปัญหาไฟตก ไฟเกิน ไฟกระชากบ่อย หรืออาจทำงานในอาคารที่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าปริมาณมากอย่างโรงงาน โกดัง หรือคลังสินค้า การใช้ Stabilizer หรือเครื่องปรับแรงดันไฟฟ้าและ UPS หรือเครื่องสำรองไฟก็คืออีกตัวช่วยปกป้องเครื่องจักและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จากปัญหาไฟฟ้าผิดปกติ แต่อุปกรณ์ทั้งสองชนิดนี้คืออะไร ต่างกันอย่างไร สามารถใช้งานทดแทนกันได้หรือไม่ เรามีคำตอบมาฝาก
เครื่องปรับแรงดันไฟฟ้า (Stabilizer) คืออะไร?
เครื่องปรับแรงดันไฟฟ้า (Stabilizer หรือ AVR - Automatic Voltage Regulator) คือ อุปกรณ์ควบคุมไฟที่ทำหน้าที่ปรับแรงดันไฟก่อนจ่ายไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าให้มีความคงที่ เสถียร และลดสัญญารบกวน เพื่อป้องกันปัญหาไฟตก ไฟเกิน หรือไฟกระชาก ทำให้การจ่ายไฟฟ้าไปยังอุปกรณ์ที่ต่อพ่วงอยู่เป็นไปอย่างราบรื่น ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานได้เต็มที่ ลดความเสี่ยงในการพังเสียหายจากปัญหาไฟฟ้าผิดปกติ มีส่วนช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ให้ยาวนานขึ้น
เครื่องปรับแรงดันไฟฟ้า (Stabilizer) มีองค์ประกอบที่สำคัญ 3 ส่วน คือ ขดลวด M (M-Winding Section) ที่มีหน้าที่เป็นขดลวดหลัก ช่วยปรับความต้านทานกระแสสลับ (L/Reactance Generation) ขดลวด J (J-Winding Section) ทำหน้าที่ปรับและควบคุมกระแสไฟฟ้า และขดลวด K (K-Winding Section) ทำหน้าที่เป็นวงจรกระแสไฟฟ้าสลับ (L/C Resonance) ขดลวดเหล่านี้จะทำหน้าที่ประสานกันเพื่อควบคุมและปรับกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านขดลวด รวมถึงลดสัญญาณรบกวนที่อาจเกิดขึ้นเมื่อจ่ายกระแสไฟฟ้าด้วย
เครื่องปรับแรงดันไฟฟ้า (Stabilizer) ทำหน้าที่รักษาระดับแรงดันของพลังงานไฟฟ้า ช่วยทำให้กระแสไฟมีความคงที่ก่อนจ่ายไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ที่ต่อพ่วงกับตัวเครื่อง เช่น เครื่องจักรในโรงงาน เครื่องจักรดิจิทัล และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ นอกจากนี้ยังทำหน้าที่กรองสัญญาณรบกวนทางไฟฟ้าที่เกิดจากมอนิเตอร์ การเปิด - ปิดสวิตช์ไฟ ความถี่ของคลื่นวิทยุ และฟ้าผ่า มีส่วนช่วยป้องกันปัญหาไฟตก ไฟกระชาก ไฟฟ้าลัดวงจร จึงช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดกับเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อเกิดภาวะไฟฟ้าผิดปกติ
UPS คือ เครื่องสำรองไฟ (UPS - Uninterruptible Power Supply) คือ อุปกรณ์ที่มีความสามารถในการเก็บสำรองพลังงานไฟฟ้า ช่วยจ่ายกระแสไฟฟ้าไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างต่อเนื่องแม้เกิดปัญหาไฟตกหรือไฟดับ สามารถรับพลังงานไฟฟ้าได้ทุกสภาพและทำการจ่ายไฟออกมาตามปกติ นิยมใช้ต่อพ่วงกับเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ที่มีข้อมูลสำคัญ
UPS มีองค์ประกอบที่สำคัญ 3 ส่วน คือ แบตเตอรี่หรือแหล่งพลังงานสำรอง ทำหน้าที่สำรองไฟฟ้ากักเก็บไว้และจะจ่ายพลังงานไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เมื่อไฟดับหรือไฟตกได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ เครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า AC เป็น DC และเครื่องประจุแบตเตอรี่ (Charger) ทำหน้าที่แปลงกระแสไฟฟ้าสลับเป็นกระแสตรงแล้วประจุไว้ในแบตเตอรี่ และเครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า DC เป็น AC (Inverter) ทำหน้าที่แปลงไฟฟ้ากระแสตรงเป็นกระแสสลับเพื่อจ่ายพลังงานไปยังอุปกรณ์ที่ต่อพ่วง
การใช้งาน UPS ทำให้เมื่อเกิดไฟดับหรือไฟตก คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ต่อพ่วงจะยังมีพลังงานไฟสำรองทำให้เครื่องยังทำงาน ทำให้เรามีเวลาเซฟข้อมูล เซฟงานที่ทำค้างไว้ และปิดเครื่องตามขั้นตอนอย่างเหมาะสมได้ จึงช่วยยืดอายุการใช้งานคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ รวมถึงช่วยป้องกันข้อมูลสำคัญสูญหายเมื่อเกิดไฟฟ้าผิดปกติ
เครื่องปรับแรงดันไฟฟ้า (Stabilizer) ต่างจาก UPS อย่างไร?
เครื่องปรับแรงดันไฟฟ้า (Stabilizer) คือเครื่องปรับแรงดันไฟฟ้า มีส่วนช่วยควบคุมแรงดันไฟฟ้าให้มีความคงที่ เสถียร และลดสัญญาณรบกวน ทำให้การจ่ายไฟฟ้าไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ต่าง ๆ ราบรื่น ป้องกันปัญหาเครื่องใช้ไฟฟ้าดับเมื่อเกิดไฟตก ไฟเกิน ไฟกระชาก ส่วน UPS คือเครื่องสำรองไฟฟ้าที่ช่วยจ่ายพลังงานไฟให้กับอุปกรณ์ที่ต่อพ่วงเป็นระยะเวลาสั้น ๆ แม้เกิดไฟดับหรือไฟตกก็ยังสามารถทำงานต่อไปได้ชั่วขณะ เพื่อให้มีเวลาเซฟไฟล์งานและปิดเครื่องอย่างเหมาะสม
แม้จะเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้การทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มีความเสถียร แต่ก็ยังมีความแตกต่างกันในรายละเอียดการใช้งาน ดังนี้
- UPS ปรับแรงดันไฟฟ้าได้ละเอียดน้อยกว่า Stabilizer: เครื่อง Stabilizer ทำหน้าที่ปรับแรงดันไฟฟ้าโดยตรง จึงทำงานได้ดีกว่า ทำให้การจ่ายไฟมีความคงที่มากกว่า ขณะที่ UPS จะมีความละเอียดในการปรับแรงดันไฟฟ้าน้อยกว่า เพราะการใช้งานหลักคือทำหน้าที่สำรองไฟ
- Stabilizer ไม่มีแบตเตอรี่ในตัว จึงไม่สามารถสำรองไฟได้: หน้าที่หลักของ Stabilizer คือการปรับแรงดันไฟฟ้า หากแรงดันไฟฟ้าในอุปกรณ์
ลดต่ำลงก็จะทำการเพิ่มแรงดันไฟฟ้าจนมีความเสถียรมากขึ้น จึงช่วยลดปัญหาเมื่อเกิดภาวะผิดปกติทางไฟฟ้าได้ใน และทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานได้สมดุลขึ้น เหมาะกับการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทำงานตลอดเวลา ต้องใช้ไฟมาก และไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องสำรองไฟ เช่น
เครื่องเซิฟเวอร์ เครื่องจักรอัตโนมัติ เครื่องปรับอากาศ เป็นต้น
ส่วน UPS จะเหมาะกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่จำเป็นต้องปิดการทำงานอย่างเหมาะสมหากเกิดไฟตกหรือไฟดับ เช่น คอมพิวเตอร์
เพื่อให้เรามีเวลาเซฟข้อมูลสำคัญและปิดการทำงานอย่างถูกต้องตามขั้นตอนเพื่อลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับแผงวงจรและข้อมูล - Stabilizer ป้องกันไฟกระชากได้ดีกว่า UPS: ระบบกันไฟกระชากของ Stabilizer ทำหน้าที่ได้ดีกว่าเพราะมีหม้อแปลงขนาดใหญ่ ทำหน้าที่
ดูดซับกระแสไฟเมื่อเกิดไฟกระชาก ขณะที่ UPS นั้นมีหม้อแปลงอัตโนมัติขนาดเล็กจึงทำหน้าที่ตรงส่วนนี้ได้ไม่เต็มที่เท่าไรนัก
นอกจากนี้อุปกรณ์ทั้งสองชนิดยังมีความแตกต่างกันเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น Stabilizer ราคาแพงกว่าและมีน้ำหนักเบากว่า UPS อย่างไรก็ตามการเลือกใช้งานต้องพิจารณาตามความเหมาะสม หากใช้เพื่อต่อพ่วงเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ ใช้พลังงานไฟสูง หรือต้องทำงานตลอดเวลา การใช้เครื่องปรับแรงดันไฟฟ้าก็เหมาะสมกว่า แต่หากต้องการใช้งานกับคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่ต้องมีการสำรองข้อมูลสำคัญก็เลือกใช้เครื่องสำรองไฟเพื่อให้มีเวลาจัดการข้อมูลหากเกิดไฟดับหรือไฟตกก็เหมาะกว่า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของเรานั่นเอง และเมื่อเราได้รู้ถึงความแตกต่างของเครื่องปรับแรงดันไฟฟ้าและเครื่องสำรองไฟแล้ว ก็อย่าลืมเลือกใช้ให้เหมาะกับลักษณะงานเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับอุปกรณ์ของเราจะดีที่สุด
บริษัท สเตเบิล อิเล็กตริก ซัพพลาย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้า รวมถึงอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น อุปกรณ์เครื่องปรับแรงดันไฟฟ้า, เครื่องควบคุมแรงดันไฟฟ้า (Stabilizer), UPS, และ Battery เพื่อแก้ไขปัญหาไฟตก ไฟอ่อน ไฟเกิน และแปลงไฟ 220V ราคาย่อมเยา เราพร้อมให้บริการแบบครบวงจร ภายใต้คอนเซปต์ "คุณภาพบริการ คืองานของเรา" พร้อมทั้งบริการหลังการขายและบริการซ่อมแซมอุปกรณ์ต่าง ๆ ดำเนินการโดยทีมงานมืออาชีพที่มีความรู้และประสบการณ์เฉพาะด้าน เพื่อให้คุณมั่นใจได้ทุกครั้งเมื่อต้องการเลือกซื้อหม้อแปลงไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นแบบเฟสเดียวหรือหม้อแปลง 3 เฟส ปรึกษาเราได้เลย
สนใจสั่งซื้อหม้อแปลงไฟฟ้า เครื่องปรับแรงดันไฟฟ้า รวมถึงบริการซ่อมได้ที่
โทร : 02-742-1002 ถึง 5 มือถือ : 083-419-6935 อีเมล : info@stable.co.th