ไฟตก ไฟกระชาก ทำร้ายเครื่องใช้ไฟฟ้าคุณมากกว่าที่คุณคิด!

ความสำคัญของการใช้เครื่องป้องกันไฟตก ไฟกระชาก และ UPS ช่วยยืดอายุการใช้งานให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้า

ความสำคัญของการใช้เครื่องป้องกันไฟตก

 

ปัญหาไฟตก ไฟกระชาก เกิดขึ้นบ่อยแม้ไม่ใช่ฤดูฝน เพราะปัจจัยภายนอกอย่างความแปรปรวนของอากาศไปจนถึงปัจจัยภายในอย่างการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าเกินกำลัง ระบบไฟที่เก่าเกินไป หรือไม่ได้มาตรฐาน อย่าคิดว่าปัญหาเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมดา แต่ควรหันมาให้ความสำคัญกับเครื่องปรับแรงดันไฟฟ้า (stabilizer) ก่อนสายเกินแก้ เพราะไฟตก ไฟกระชาก ส่งผลเสียต่อเครื่องใช้ไฟฟ้ามากกว่าที่คิด!


ไฟตก ไฟกระชากคืออะไร?

ไฟตกเป็นสภาวะผิดปกติที่เกิดขึ้นเมื่อแรงดันไฟฟ้าลดลงต่ำกว่าระดับปกติ อาจเกิดจากการใช้ไฟฟ้ามากเกินไปในระบบเดียวกัน หรือปัญหาจากแหล่งจ่ายไฟฟ้า ส่วนไฟกระชากเป็นภาวะที่แรงดันไฟฟ้าเพิ่มขึ้นสูงกว่าระดับปกติชั่วคราว มักเกิดจากฟ้าผ่า การเปิด - ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ หรือปัญหาในสายส่งไฟฟ้า


อันตรายจากไฟตก และไฟกระชาก

  1. .ระบบไฟหยุดทำงาน
    ไฟตก ไฟกระชาก อาจทำให้ระบบไฟฟ้าหยุดทำงานชั่วคราว ส่งผลต่อการทำงานในสำนักงาน หรือโรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงการใช้ชีวิตประจำวันทั่วไป

  2. เกิดอุบัติเหตุจากไฟฟ้า
    ปัญหาไฟตกอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุทางไฟฟ้า เช่น การเกิดไฟฟ้าลัดวงจร หรือไฟไหม้ และเสี่ยงลุกลามกลายเป็นปัญหารุนแรงโดยที่หลายคนไม่คาดคิด
  3. ระบบไฟฟ้าเสื่อมเร็ว
    หากเกิดปัญหาภาวะผิดปกติของไฟฟ้าบ่อย ๆ จะทำให้ระบบไฟฟ้าเสื่อมสภาพเร็วขึ้น เช่น การเสื่อมสภาพของสายไฟ แผงวงจร และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง
  4. ส่งผลด้านความความปลอดภัย
    การเกิดภาวะผิดปกติของไฟฟ้าอาจทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรหรือไฟไหม้ เป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้อยู่อาศัย รวมถึงส่งผลกระทบต่ออาคารบ้านเรือนหลังอื่นในชุมชน


ไฟตก ไฟกระชากส่งผลเสียต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างไร?

  1. อุปกรณ์ทำงานผิดปกติ
    เมื่อแรงดันไฟฟ้าลดลงต่ำกว่าเกณฑ์ที่อุปกรณ์ต้องการ อุปกรณ์ไฟฟ้าอาจทำงานผิดปกติ หรือหยุดทำงาน เช่น คอมพิวเตอร์อาจรีสตาร์ทเอง หลอดไฟอาจสว่างน้อยลง หรือเครื่องปรับอากาศอาจไม่ทำงานเต็มประสิทธิภาพ

  2. มอเตอร์ และคอมเพรสเซอร์เกิดความเสียหาย
    อุปกรณ์ที่ใช้มอเตอร์ เช่น ตู้เย็น เครื่องซักผ้า และเครื่องปรับอากาศ จะได้รับผลกระทบอย่างมากจากไฟตก การที่แรงดันไฟฟ้าลดลงจะทำให้มอเตอร์ทำงานหนักขึ้น เกิดความร้อนสูง และอาจทำให้มอเตอร์ไหม้ หรือเสียหายได้

  3. อายุการใช้งานสั้นลง
    การเกิดไฟตก ไฟกระชากบ่อย ๆ ทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าเสื่อมสภาพเร็วขึ้น เนื่องจากอุปกรณ์ต้องทำงานภายใต้สภาวะที่ไม่เสถียรและเกิดความร้อนสูงขึ้น อายุการใช้งานจึงสั้นลง

  4. ข้อมูลเสียหาย และอาจกู้คืนไม่ได้
    อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างคอมพิวเตอร์ และเซิร์ฟเวอร์อาจสูญเสียข้อมูลหรือเกิดความเสียหายต่อข้อมูลสำคัญ หากเกิดไฟตกในขณะที่กำลังบันทึกข้อมูล หรือกำลังใช้งานอุปกรณ์เหล่านั้น ที่สำคัญเราอาจไม่สามารถกู้คืนข้อมูลกลับมาได้ด้วย

  5. วงจรไฟฟ้าเสียหาย
    ไฟตก ไฟกระชากสามารถทำให้วงจรอิเล็กทรอนิกส์ภายในอุปกรณ์เกิดความเสียหาย เช่น แผงวงจรของคอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ หรือเครื่องเสียง

  6. เกิดการเผาไหม้ภายในวงจร
    แรงดันไฟฟ้าที่สูงเกินไปจากไฟกระชากสามารถทำให้ส่วนประกอบภายในอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น ตัวต้านทาน ทรานซิสเตอร์และตัวเก็บประจุ เกิดความร้อนสูงจนเผาไหม้ หรือระเบิดได้ กลายเป็นอันตรายร้ายแรงตามมา

  7. แบตเตอรี่เสื่อมสภาพ อายุการใช้งานสั้นลง
    อุปกรณ์ที่ใช้แบตเตอรี่หรือมีแบตเตอรี่ในตัวอาจได้รับผลกระทบจากไฟกระชาก ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น

วิธีป้องกันไฟตก และไฟกระชาก

  1. ติดตั้งเครื่องปรับแรงดันไฟฟ้า (stabilizer)
    เครื่องปรับแรงดันไฟฟ้าจะช่วยป้องกันไม่ให้อุปกรณ์ไฟฟ้าได้รับความเสียหายจากแรงดันไฟฟ้าที่สูงเกินไป อุปกรณ์นี้จะช่วยรักษาระดับแรงดันไฟฟ้าให้คงที่ และป้องกันไม่ให้อุปกรณ์ไฟฟ้าได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของแรงดันไฟฟ้า รวมถึงช่วยให้การจ่ายไฟจากแหล่งพลังงานไปสู่เครื่องใช้ไฟฟ้ามีความเสถียรมากขึ้นด้วย

  2. ใช้เครื่องสำรองไฟ (Uninterruptible Power Supply - UPS)
    UPS หรือเครื่องสำรองไฟสามารถสำรองไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ในช่วงที่เกิดไฟตก หรือไฟกระชาก และช่วยป้องกันความเสียหายต่ออุปกรณ์ ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าสามารถใช้งานต่อได้แม้ระบบไฟขัดข้อง ทำให้มีเวลามากพอที่จะสำรองข้อมูล และปิดอุปกรณ์เหล่านั้นอย่างถูกวิธีก่อนพลังงานไฟฟ้าจะหมด

  3. ติดตั้งระบบสายดิน (Grounding)
    การติดตั้งระบบสายดินเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด เพราะสายดินช่วยป้องกันการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร และลดความเสี่ยงจากไฟกระชากได้อีกด้วย

  4. ตรวจสอบ และบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าอยู่เสมอ
    การตรวจสอบ และบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอช่วยลดความเสี่ยงจากไฟตก และไฟกระชากได้ หากพบจุดที่เสื่อมสภาพ ชำรุดเสียหาย ต้องทำการซ่อมบำรุง หรือเปลี่ยนใหม่ทันที


ไฟตก และไฟกระชากเป็นภาวะที่สามารถเกิดขึ้นได้ในระบบไฟฟ้า แต่เราไม่ควรชะล่าใจเด็ดขาด เพราะปัญหาดังกล่าวมีผลกระทบต่อความปลอดภัย และประสิทธิภาพการใช้งานของอุปกรณ์ไฟฟ้า การป้องกัน และการจัดการอย่างถูกวิธีจะช่วยลดความเสี่ยงรวมถึงช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ ด้วยการติดตั้งอุปกรณ์เครื่องปรับแรงดันไฟฟ้า การใช้ UPS และการบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอ ก็จะสามารถรักษาความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สิน ลดความเสี่ยงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หากคุณกำลังมองหาเครื่องปรับแรงดันไฟฟ้า หรือ stabilizer คุณภาพสูง ได้มาตรฐาน สามารถนำไปใช้งานได้หลากหลาย

อิเล็กตริก ซัพพลาย คือ ผู้จัดจำหน่ายเครื่องปรับแรงดันไฟฟ้า (stabilizer) หม้อแปลงไฟฟ้า รวมถึงอุปกรณ์อื่น ๆ อย่างอุปกรณ์เครื่องปรับแรงดันไฟฟ้า เครื่องควบคุมแรงดันไฟฟ้า Stabilizer, UPS, Battery เพื่อแก้ไขปัญหาไฟตก ไฟอ่อน ไฟเกิน แปลงไฟ 220v ราคาถูก คุณภาพสูง มาตรฐานสากล นอกจากนี้เรายังมีบริการให้คำแนะนำทั้งก่อน และหลังการขาย บริการติดตั้ง ซ่อมแซม และบริการหลังการขายครบวงจรโดยทีมงานมืออาชีพ มีความรู้ และประสบการณ์ด้านระบบไฟฟ้า และอุปกรณ์ปรับแรงดันไฟฟ้าโดยเฉพาะ เพื่อให้คุณมั่นใจมากกว่าเมื่อต้องการเลือกซื้อหม้อแปลงไฟฟ้าไม่ว่าจะเป็นแบบเฟสเดียว หรือหม้อแปลง 3 เฟส ปรึกษาเราได้เลย เพราะเราพร้อมให้บริการแบบครบวงจร ภายใต้คอนเซปต์ "คุณภาพบริการ คืองานของเรา"

สนใจสั่งซื้อหม้อแปลงไฟฟ้า เครื่องปรับแรงดันไฟฟ้า รวมถึงบริการซ่อมได้ที่

โทร : 02-742-1002 ถึง 5 มือถือ : 083-419-6935 อีเมล : info@stable.co.th

 

Visitors: 40,789